ทำไมถึงท้องอืด...มาดู 7 อาหารที่ทำให้ท้องอืดกัน
บางครั้งอาการท้องอืดและมีลมในช่องท้องอาจไม่ได้เป็นเพราะคุณกินมากเกินไป หรือกินอาหารที่มีไขมันสูงหรอกนะ แต่สาเหตุหลักที่ค้นพบในงานวิจัยจาก International Journal of Clinical Practice กลับพบว่าเกิดจากการกินอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรตซึ่งมีการดูดซึมในลำไส้น้อยและมักอุดมไปด้วยน้ำตาลธรรมชาติสูง หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า FODMAPs
ผศ.ด.ร. Julia Greer แห่งคณะแพทย์ศาสตร์ มหวิทยาลัย Pittsburgh สหรัฐอเมริกา อธิบายว่าอาหารในกลุ่ม FODMAPs นั้นจะถูกดูดซึมในลำไส้เล็กได้น้อย บางครั้งย่อยไม่หมดจนเกิดการหมักโดยเชื้อจุลินทรีย์ในทางเดินอาหาร ทำให้เกิดแก๊สขึ้นในลำไส้ใหญ่และส่งผลให้รู้สึกท้องอืด ส่วนวิธีบรรเทาอาการ ดร. Greer แนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าเพื่อช่วยขับแก๊ส แต่หากมีอาการแน่นท้องอยู่บ่อยๆ อาจต้องเลี่ยงอาหารบางชนิดที่ก่อให้เกิดอาการไม่สบายท้องดังต่อไปนี้
1. ผักตระกูลกะหล่ำปลี
เช่นกระหล่ำปลี,บร็อกโคลี่ และ กะหล่ำดอก ซึ่งมีคาร์โบไฮเดรต ประเภทที่เรียกว่า แรฟฟิโนส (เป็นน้ำตาลที่พบมากในธรรมชาติ) ประกอบด้วยน้ำตาล 3 ชนิด คือ ฟรักโทส กลูโคส และกาแลกโทส ตามปกติแล้วร่างกายจะไม่สามารถย่อยน้ำตาลชนิดนี้ได้ในระบบทางเดิน อาหารจนกว่าผักเหล่านี้จะถูกลำเลียงไปยังลำไส้ใหญ่ ซึ่งจะถูก ย่อยให้เล็กลงจากแบคทีเรียที่อยู่ในนั้น แต่กว่าจะย่อยได้หมด กากอาหารจากผักจะเกิดการหมักหมมจนกลายเป็นแก๊ส ด.ร.Greer จึงแนะวิธีที่ช่วยให้ร่างกายย่อยผักกะหล่ำได้ง่ายขึ้น คือนำไปอบหรือย่างสุกก่อนกินนั่นเอง
2. ถั่ว
จัดเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยให้เป็นน้ำตาลได้ยาก (Resistant Starch) หรือพูดง่าย ๆ คือเส้นใยอาหารที่ไม่สามารถย่อยได้ตามธรรมชาติ หรือไม่ถูกดูดซึมได้ในลำไส้เล็ก ส่งผลให้เกิดอาการท้องอืดโดยทั่วไปมักพบในประเภทถั่วเปลือกแข็งทั้งหลาย สำหรับวิธีรับประทานถั่วอย่างมีความสุขนั้น ดร.Greer บอกให้นำถั่วเปลือกแข็งแช่น้ำไว้ค้างคืน ความชุ่มฉ่ำจากน้ำ จะช่วยให้ถั่วอ่อนนิ่มและยับยั้งคาร์โบไฮเดรตได้บางส่วน ทำให้ลดอาการท้องอืดที่อาจเกิดขึ้นได้
3. แตงโม
ผลไม้ที่ให้ความหวานตามธรรมชาติชนิดนี้อุดมไปด้วยน้ำตาลฟรักโทสในระดับสูงมาก โดย ดร.Greer ระบุว่าประมาณ 30-40% ของผู้ที่ไม่สามารถดูดซึมฟรักโทสได้อย่างเต็มที่นั้นจะนำไปสู่อาการท้องอืด บางครั้งอาจมีอาหารท้องเสียร่วมด้วย
4. หัวหอมใหญ่
ฟรุกแทน (Fructan) เป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่งที่พบในหัวหอมใหญ่ ซึ่งมักเป็นปัญหาต่อช่องท้องของเรา เนื่องจากพืชผักตระกูลหอมไม่ว่าจะเป็นต้นหอม หัวหอมแดง และหัวหอมใหญ่ มักดูดซึมในลำไส้ได้น้อย และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำในลำไส้ ส่งผลให้เกิดแก๊สและท้องอืดตามมา
5. ธัญพืช
ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวไรย์ และข้าวโพด ต่างก็มีส่วนประกอบของฟลุกแทน ซึ่งไม่สามารถแยกย่อยได้เองตามธรรมชาติ และโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่แพ้กลูเตน (คือโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบการย่อยทางพันธุกรรม เกิดขึ้นเมื่อร่างกายได้รับกลูเตนซึ่งไม่สามารถย่อยลำไส้เล็ก ทำให้เกิดอาการคล้ายกับแพ้นม) การกินธัญพืชเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการทำลายเยื่อบุของลำไส้เล็กและเกิดแก๊สขึ้นในท้อง บางคนอาจมีอาการท้องเสียและ/หรือท้องผูกร่วมด้วย แต่ถึงแม้จะไม่มีอาการแพ้กลูเตนเลยก็ตาม เส้นใยจากพืชที่ไม่ละลายน้ำชนิดนี้จะหมักโดยเชื้อจุนลินทรีย์ในลำไส้ใหญ่ ซึ่งนำไปสู่การเกิดแก๊สเป็นจำนวนมหาศาลอยู่ดี
ที่มา - www.108health.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น