ใส่แหวนเสริมดวง! รักรุ่ง งานเริ่ด ชีวิตดี๊ดี
ต้องบอกเลยค่ะว่า แหวนเป็นเครื่องประดับที่สาวๆต้องเคยสวมใส่กันมาบ้าง แต่จะมีใครทราบกันบ้างไหมค่ะว่า เครื่องประดับไอเจ้าแหวนเนี้ยย มีพลังงานบางอย่างที่สามารถดึงดูดความโชคดี หรือช่วยเสริมเกี่ยวกับเรื่องความรัก เรื่องงานได้ค่ะ พูดมาซะขนาดนี้ อยากรู้แล้วใช่มั๊ยคะ ว่าอยากชีวิตดี๊ดี แฮปปี้ๆ การเลือกสวมแหวนแต่ละนิ้ว จะช่วยเสริมเรื่องอะไร?
สวมแหวนนิ้วหัวแม่มือ
เรื่องงาน : บ่งบอกถึงความมั่นใจในตัวเอง เหมาะกับคนที่ทำงานเกี่ยวกับการจัดการ เช่น ออแกไนเซอร์ ถ้าอยากเสริมให้ดูน่านับถือก็ให้สวมข้างซ้าย แต่ถ้ารู้สึกว่าตัวเองมีพาวเวอร์เยอะจนน่าเกรงขาม คนรอบข้างกลัวไม่กล้าต่อรอง ก็ไม่สวมข้างขวาแทน
เรื่องความรัก : ถ้าอยากมีเสน่ห์คนรักชอบมากๆต้อง สวมแหวนที่หัวแม่มือ เลยค่ะ
สวมแหวนนิ้วชี้
เรื่องงาน : บ่งบอกถึงการมีเหตุมีผล เกี่ยวกับเรื่องการสื่อสาร คนที่มีความเป็นผู้นำ มีลูกน้องบริวาร ควรสวมข้างซ้ายเพื่อเสริมความมั่นใจให้มากขึ้น แต่ถ้าสวมข้างขวา จะเป็นการปรับให้ตัวเองเข้ากับกฏระเบียบต่างๆได้ดี
เรื่องความรัก : ถ้าอยากให้ใครคนนั้นสนใจคุณมากๆ ต้องสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายเลยค่ะ เรียกความสนใจได้ดีทีเดียว
สวมแหวนนิ้วกลาง
เรื่องงาน : เป็นนิ้วแห่งการตัดสิน การสวมแหวนข้างซ้าย จะเหมาะกับคนที่ทำงานด้านการตรวจสอบ ใช้เหตุผลเป็นตัวตั้ง ตัดสินสิ่งต่างๆ แต่ถ้าสวมแหวนข้าวขวา จะเป็นเรื่องอารมณ์ พวกศิลปิน จิตรกรน่าจะเหมาะ ถ้าอยากมีโชคลาภทางการเงิน ต้องสวมแหวนที่ “นิ้วกลางข้างขวา” ทีนี้ล่ะเงินทองได้ไหลมาเทมาแน่นอน
สวมแหวนนิ้วนาง
เรื่องงาน : เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ เลือกสวมแหวนข้างซ้าย จะเหมาะกับคนชอบคิด ชอบความแปลกใหม่ ท้าทาย จะเสริมในส่วนนี้ แต่ถ้าสวมข้างขวา จะเสริมในเรื่องตรรกะมากขึ้น
เรื่องความรัก : ถ้าคุณอยากมีความรักที่มั่นคง ก็ต้องสวมแหวนนิ้วที่ตรงกับหัวใจที่สุด คือ “นิ้วนางข้างซ้าย“
สวมแหวนนิ้วก้อย
เรื่องงาน : เกี่ยวกับเรื่องการสื่อสารโดยตรง ข้างซ้ายจะเหมาะกับอาชีพที่ต้องใช้วาจา การพูด จะทำให้การสื่อสารเจรจาที่ดีขึ้น หรือคนที่ขี้อาย ไม่ค่อยกล้าพูด ก็ควรสวมข้างนี้เช่นกัน แต่ถ้าคุณหรือคนรอบข้าง ช่างพูดเหลือเกิ๊นนนนนนน ก็ให้สวมข้างขวาซะ จะได้เบาหูลงหน่อย
เรื่องความรัก : ถ้าอยากให้มีโชคในเรื่องของความรัก คุณต้องสวมแหวนที่ “นิ้วก้อยข้างซ้าย” รับรองสมหวังในเรื่องของความรักแน่นอน
สาวๆลองนำไปปรับใช้ดูนะคะ ขอบอกเรื่องแบบนี้ไม่เชื่อก็ต้องลองดูนะ อิอิ
เครดิต: www.108health.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น