WHAT'S NEW?
Loading...

อันตรายที่คุณต้องรู้! ความลับของผงชูรส กับผลกระทบที่มีต่อดวงตาของเรา

Advertisements

Advertisements

อันตรายที่คุณต้องรู้! ความลับของผงชูรส กับผลกระทบที่มีต่อดวงตาของเรา

มาดูความอันตรายของผงชูรส ที่มีผลต่อดวงตาของเรา และความลับที่จะทำให้เราได้รู้ว่าจริงๆ แล้ว ผงชูรสนั้น ไม่ได้ทำให้ผมร่วง หรือทำให้อาหารอร่อย ตามที่เข้าใจ

ทราบหรือไม่ อาหารที่เราทานกันอยู่ทุกวันเป็นประจำนั้น ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีผงชูรสเป็นส่วนผสมแทบทุกจานอาหาร ซึ่งหากเราไม่แพ้ผงชูรส ก็จะไม่มีอาการอะไรที่ชี้ระบุได้ แต่หากเราเป็นคนที่แพ้ผงชูรส จะระบุได้ทันทีว่าอาหารจานไหนนั้นผสมผงชูรสเอาไว้ โดยในทางการแพทย์นั้น ผงชูรสไม่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย ซ้ำยังก่อให้เกิดโทษกับร่างกายของเราหากรับประทานเข้าไปในจำนวนที่มากเกินพอดีอีกด้วย

โดยทางนักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย ฮิโรซากิ ในประเทศญี่ปุ่น ได้ทดลองนำสารโซเดียมกลูตาเมท ซึ่งเป็นสารประเภทเดียวกับผงชูรสมาทดลองให้สัตว์ได้ทาน พบว่าการมองเห็นของสัตว์ที่ได้ทานสารตัวนี้เข้าไปนั้นมาสมรรถภาพลดลง โดยชั้นเรติน่าในดวงตาได้ถูกทำลายไป และศักยภาพในการส่งสัญญาณคลื่นไฟฟ้าในสมองนั้นก็ลดลงด้วยเช่นกัน

ซึ่งกรณีแบบนี้นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ในมนุษย์ทุกคนเช่นกัน และอีกหนึ่งข้อสังเกตที่นักวิจัยค้นพบก็คือ อัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคต้อหินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นมีจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นซึ่งอาจเป็นผลมาจาการทานอาหารที่มีสารโมโนโซเดียมกลูตาเมท และแม้ว่าจะยังไม่มีการรับรองหรือยืนยันจากผลการวิจัย 100 % แต่ก็ควรลดหรืองดเว้นการทานผงชูรสหรือโมโนโซเดียมกลูตาเมทในปริมาณที่เกินพอดี ซึ่งก็คือไม่ควรเดิน 2 ช้อนชาต่อวัน

TIP : นอกจากจะส่งผลกระทบต่อศักยภาพของดวงตาแล้ว เราอาจเคยได้ยินกันอยู่บ่อยๆ ว่าหากทานผงชูรสในปริมาณมาก จะทำให้เกิดอาการผมร่วง แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาการผมร่วงนั้นน่าจะเกิดจากสาเหตุทางพันธุกรรมเสียมากกว่า เพราะผงชูรสไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาการผมร่วงแต่อย่างใด

อีกทั้งผงชูรสนั้นยังไม่ได้มีผลต่อรสชาติอาหาร เพียงแต่ผงชูรสนั้นเป็นสื่อนำประสาทที่จะช่วยให้ต่อมรับรสบนลิ้นของเราทำงานได้ไวมากยิ่งขึ้น จึงทำให้เราสามารถรับรสอาหารได้ชัดเจน จนกลายเป็นสาเหตุที่คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า หากทำอาหารแล้วใส่ผงชูรสจะยิ่งทำให้อาหารมีรสชาติอร่อยมากขึ้น

ที่มา...http://www.prd.go.th/ewt_news.php?nid=102729&filename=index

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น