WHAT'S NEW?
Loading...

5 ปราสาท ที่คุณต้องไปเยือนซักครั้งในชีวิต

Advertisements

Advertisements

5 ปราสาท ที่คุณต้องไปเยือนซักครั้งในชีวิต


1. ปราสาทนอยชวานชไตน์ (Neuschwanstein Castle) เยอรมนี

เห็นภาพปราสาทแห่งนี้ บางคนอาจจะคุ้นๆเหมือนเคยเห็นผ่านตามาบ้าง ปราสาทแห่งนี้ชื่อว่า นอยชวานชไตน์ (Neuschwanstein Castle) ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ ประเทศเยอรมนี โดยสร้างในสมัยพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งแคว้นบาวาเรีย เป็นหนึ่งในปราสาทที่งดงามที่สุดในโลก และเป็นต้นแบบของการสร้างปราสาทเทพนิยายเจ้าหญิงนิทราที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ โตเกียวดิสนีย์แลนด์ รวมไปถึงที่แดนเนรมิตประเทศไทยก็ด้วยนะ และ ที่นี่ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของเยอรมนี ที่มีผู้คนมาเที่ยวชมกว่า 1.3 ล้านคนต่อปีอีกด้วย

ส่วนการสร้างประสาทแห่งนี้เป็นประสงค์ของพระราชา เพื่อเป็นที่ประทับอย่างสันโดษ ห่างจากผู้คน และยังสร้างเพื่ออุทิศแก่นักกวีคนโปรดที่ประพันธ์เรื่องอัศวินหงศ์ ปราสาทแห่งนี้เดิมใช้เวลาสร้างกว่า 17 ปี แต่ต้องหยุดชะงักไปเสียก่อนเพราะการสวรรคตของพระเจ้าลุดวิกที่ 2


2. ปราสาทเซนต์แองเจโล (Castel Sant'Angelo) อิตาลี

ปราสาทเซนต์แองเจโล (Castel Sant'Angelo) สถาปัตยกรรมเก่าแก่อายุกว่า 1,900 ปี สมัยก่อนใช้เป็นสุสานสำหรับจักรพรรดิโรมันและครอบครัว สร้างในยุคพระเจ้าฮาเดรียน โดยป้อมทรงกลมตรงกลางมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 200 ฟุต มีความแข็งแรงทนทานมาก ต่อมาในศตวรรษที่ 14 พระสันตะปาปานิโคลัสที่ 3 ได้เปลี่ยนนำมาใช้เป็นปราสาทเพื่อพักอาศัย และใช้เป็นป้อมปราการ นอกจากนี้ยังใช้เป็นที่คุมขังนักโทษอีกด้วย ซึ่งปราสาทนี้เคยได้ชื่อว่าเป็นอาคารที่สูงที่สุดในกรุงโรม และการตกแต่งบางส่วนยังแสดงถึงศิลปะสมัยยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ในหลายพันปีที่ผ่านมาก็ถูกต่อเติมตกแต่งจนมีความสวยงามอลังการมาจนถึงตอนนี้ ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติของกรุงโรม ประเทศอิตาลี และเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเมื่อมาอิตาลี


3. ปราสาทโฮโคสแทร์วิทซ์ (Hochosterwitz Castel) ออสเตรีย

ชวนมาท่องเที่ยวดินแดนในยุโรปอีกครั้งกับปราสาทสุดมหัศจรรย์ Hochosterwitz สมบัติของประเทศออสเตรีย ซึ่งจุดเด่นของปราสาทหินแห่งนี้คือตั้งอยู่บนเขาที่มีความสูงเหนือเมืองกว่า 160 เมตร ห่างจากเมือง Klagenfur เพียง 21 กิโลเมตร ได้ชื่อว่าเป็นปราสาทที่น่าประทับใจแห่งหนึ่งในออสเตรีย สร้างขึ้นในปีค.ศ.860 โดย King Louis the German ประสาทแห่งนี้มีความโดดเด่นอยู่ในแถวหน้าของยุโรป ตั้งแต่สมัยจักรววรดิออตโต ส่วนใครจะไปเที่ยวที่นี่ เขาว่าถนนทางเข้านั้นเลื่องชื่อในด้านความชันและความคดเคี้ยว เพราะตัวปราสาทตั้งอยู่บนเขาที่สูงกว่า 620 เมตร จนสามารถมองเห็นจากที่ไกลๆได้เลยทีเดียว ไฮไลท์อื่นๆคือโบสถ์ภายในปราสาทที่มีความแปลกตา และภาพวาดฝาผนังเก่าแก่ที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในศิลปะทางประวัติศาสตร์ ได้เลย และยังมีที่เก็บคลังอาวุธ ที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกด้วย


4. ปราสาทมอลบอร์ก (Malbork Castle) โปแลนด์

ปราสาทมอลบอร์ก (Malbork Castle) เป็นปราสาทเก่าแก่ที่สร้างด้วยอิฐซึ่งใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่ประเทศโปแลนด์ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 13

เดิมทีปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นโดยอัศวินของศาสนาคริสต์ นิกายทอยโทนิค ซึ่งรูปแบบของปราสาทนั้นเป็นตัวอย่างที่แสดงถึงศิลปะคลาสสิกของป้อมปราการในยุคกลางเพื่อรับการโจมตีของศัตรู และเป็นมหาวิหารของนิกาย โดยได้สร้างจนแล้วเสร็จในปีค.ศ. 1406 มีอาคารหลัก 2 ทิศ คือทิศเหนือและทิศตะวันตก ซึ่งช่วงหลังเมื่อนิกายทอยโทนิคได้เสื่อมลง บางจุดในปราสาทจึงถูกทำลายไปบ้าง แต่ก็ได้รับการปรับปรุงและบูรณะใหม่ในศตวรรษที่ 19-20 และถูกดูแลเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันที่ยังมีความสวยงามอลังการอยู่ ปราสาทมอลบอร์กมีความกว้างใหญ่ รอบนอกเป็นพิพิธภัณฑ์ ข้างในมีลานกว้าง อยู่ติดกับแม่น้ำ เป็นทัศนียภาพที่สมบูรณ์ จึงไม่แปลกใจที่ปราสาทแห่งนี้จะเป็นหนึ่งในมรดกโลก และเป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์แห่งประเทศโปแลนด์อีกด้วย


5. ปราสาทโฮเฮ็นชวานเกา (Hohenschwangau Castle) เยอรมัน

ปราสาทในเยอรมันส่วนใหญ่มักจะตั้งอยู่บนยอดเขาเพื่อจะได้สอดส่องป้องกันผู้บุกรุก ซึ่งสมัยก่อนสามารถช่วยขับไล่ผู้รุกรานจากต่างชาติได้มากมาย ในปัจจุบันหลายๆปราสาทหลายแห่งได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เขาชมความสวยงามของปราสาททั้งหลาย

ปราสาทสีขาวนี้มีสวยงามราวกับปราสาทในเทพนิยายจึงเป็นที่รู้จังไปทั่วโลก แต่ปราสาทแห่งนี้ไม่ได้เดินทางไปง่ายเหมือนในหนังสือแน่นอน เพราะนอกจากจะต้องเดินขึ้นเขาเพื่อไปยังปราสาทแล้ว ในปราสาทเองก็ยังมีบันไดอีกหลายขั้นที่คุณต้องเดินเพื่อขึ้นไปชมส่วนต่างๆในปราสาทอีกด้วย อย่างไรก็ตามผู้ที่เข้าชมต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามันคุ้มเพื่อที่จะได้เข้าไปชมความงามที่เป็นไปด้วยมนต์ขลังของปราสาทแห่งนี้

ปราสาท Hohenschwangau นั้นเป็นที่รู้จักเนื่องจากตั้งถัดจากปราสาท Neuschwanstein ไปไม่ไกลนัก แต่ก็ถือเป็นปราสาทที่มีเอกลัษณ์และประวัติศาสตร์เป็นของตัวเอง โดยเรื่องราวของปราสาทแห่งนี้เริ่มขึ้นในศตวรรษที่12 มันถูกสร้างเพื่อเป็นป้อมปราการให้Schwanstein ครอบครัวของอัศวินที่ก่อตั้งปราสาทแห่งนี้เสียชีวิตลงในศตวรรษที่16 ต่อมาในปีค.ศ.1832 เจ้าชายMaximilianที่สองแห่งบาวาเรีย ได้ทำการบูรณะปราสาทสภาพโทรมนี้ขึ้นใหม่ให้กลายเป็นปราสาทแบบนีโอโกธิค เมื่อทำการบูรณะเสร็จพระองค์ก็ทรงใช้ปราสาทแห่งนี้เป็นที่กระท่อมสัตว์และพระราชวังฤดูร้อน


source: Thaiza.com

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น