5 สัญญาณเตือน! ว่าคุณอาจกำลังเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ เชื่อสิหลายคนละเลยมาตลอด
โรคมะเร็งมีหลายชนิด แม้ว่ามะเร็งลำไส้ใหญ่ไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิตแต่ยังคงมีความรุงแรงอยู่ในระดับสูง ตามสถิติมีคนจำนวน 140,000 คนได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่หรือมะเร็งทวารหนักในปี 2016
โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นกันมาก แต่ปัญหาสำคัญคือคนละเลยที่จะรับการรักษาสำหรับปัญหานี้ เพราะอาการของโรคชนิดนี้มีอาการเล็กน้อยจึงถูกมองข้ามได้ง่าย
เพื่อลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ในบทความวันนี้เราจะแสดงอาการที่ทุกคนมองข้ามมากที่สุดและวิธีบรรเทาอาการของมัน
น้ำหนักลดลงอย่างฉับพลัน
หากคุณพบว่าน้ำหนักลดลงมากเกินไปโดยไม่มีเหตุผล อาจเป็นสัญญาณของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งจะสูญเสียน้ำหนักถึง 5% ของน้ำหนักตัวคุณ ภายใน 6 เดือน
เช่น คนที่มีน้ำหนัก 150 ปอนด์เมื่อเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่จะสูญเสียน้ำหนักลงไป 7 ปอนด์ จากนั้นจะหายไปอีกครึ่งหนึ่งภายใน 6 เดือน สถานการณ์นี้สามารถระบุได้ว่าเป็นความสูญเสียน้ำหนักที่อธิบายไม่ได้ เมื่อเทียบกับการใช้พลังงานทั้งหมดของร่างกาย
เซลล์มะเร็งมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายซึ่งต่อสู้กับโรคและยังแพร่กระจาย นั่นคือสาเหตุสำหรับคนที่สูญเสียน้ำหนักเป็นจำนวนมาก
เมื่อเราพูดถึงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ มันคือเนื้องอกขนาดใหญ่ที่กีดขวางลำไส้ใหญ่ สามารถส่งผลกระทบการเคลื่อนไหวของลำไส้และก่อให้เกิดการสูญเสียน้ำหนักอย่างรุนแรง
ความเมื่อยล้า
ความเมื่อยล้าเป็นอีกอาการที่ถูกมองข้าม คิดว่าไม่ได้ร้ายแรงอะไร เพราะคิดว่าเหนื่อยเนื่องจากการขาดนอนหรือการดำเนินชีวิตอย่างเร่งรีบ
คุณสามารถสังเกตความเมื่อยล้า ว่าเป็นอาการของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักหรือไม่ ถ้าคุณรู้สึกเหนื่อยล้าอยู่ตลอดเวลาแม้ว่าคุณนอนหลับอย่างเพียงพอแต่ยังมีอาการอยู่ เพื่อให้แน่ใจควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อความชัวร์
ทำไมความเมื่อยล้าและโรคมะเร็งถึงเกี่ยวพันกัน เพราะเซลล์มะเร็งใช้พลังงานของร่างกาย ก่อให้เกิดความเมื่อยล้าและยังสามารถทำให้สูญเสียเลือดได้อีก
การขับถ่ายอุจจาระผิดปกติ
คนมักจะไม่ได้ให้ความสนใจกับการขับถ่ายอุจจาระของพวกเขา อย่างไรก็ตาม เวลาในการขับถ่ายและลักษณะของอุจจาระสามารถบ่งบอกถึงปัญหาต่างๆที่มีต่อสุขภาพและการเกิดของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
จำนวนเล็กๆ ของเซลล์ที่เรียกว่าไส้ติ่ง เวลาเปลี่ยนเป็นเซลล์มะเร็งจะมีลักษณะเป็นเนื้องอกจะส่งผลต่อการขับถ่ายอุจจาระ มีผลกระทบต่อการทำงานของลำไส้ใหญ่จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุจจาระ
ตะคริว
ตะคริวถูกมองข้ามมากที่สุด เพราะคิดว่าเป็นอาการของปัญหาสุขภาพอื่น ที่ไม่ได้เกี่ยวกับมะเร็ง อย่าเพิกเฉยถ้าคุณพบว่ามีอาการปวดเกร็งท้องไม่จำเป็นว่าคุณต้องเป็นโรคมะเร็ง
แต่ถ้าปวดท้องเรื้อรังเป็นเวลานาน แน่นอนคุณควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกันดีกว่ามาเสียใจที่หลัง
แปลข้อมูลโดย : http://www.rak-sukapap.com/ เว็บไซต์ใดที่นำข้อมูลไปเผยแพร่ กรุณาช่วยให้ เครดิต และใส่ลิงค์กับมาที่เว็บไซต์ด้วยค่ะ
อ้างอิง : fhfn
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น