WHAT'S NEW?
Loading...

ต้องกินบางแล้วอะโวคาโด สรรพคุณแจ่ม บำรุงสายตา ลดน้ำตาลในเลือด ช่วยลดน้ำหนักได้

Advertisements

Advertisements

ต้องกินบางแล้วอะโวคาโด สรรพคุณแจ่ม บำรุงสายตา ลดน้ำตาลในเลือด ช่วยลดน้ำหนักได้

มีคนจำนวนไม่น้อยที่หลงคิดว่า อะโวคาโดเป็นผลไม้บ่มิไก๊ รสชาติก็ไม่หวาน ไขมันก็สูง กลัวว่าจะกินแล้วอ้วน ทั้งที่จริงแล้วสรรพคุณของอะโวคาโดมีค่ามากกว่านั้นเยอะ จนต่างพากันยกย่องว่าอะโวคาโดเป็น "อาหารเพื่อสุขภาพ" เลยทีเดียว ถ้าอย่างนั้นอย่ารอช้า มาพิสูจน์สรรพคุณอะโวคาโดเลยสิคะ

อะโวคาโด สรรพคุณดี ๆ ที่อยากบอกต่อ

อะโวคาโดมีคุณค่าทางสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอยู่ไม่น้อย จนอาจเทียบได้ว่า อะโวคาโดมีคุณค่าทางโภชนาการที่มากกว่าผลไม้หลายชนิด โดยข้อมูลนี้อ้างอิงได้จากงานวิจัยของสถานีวิจัยปากช่อง สถาบันอินทรีจันทรสถิตย์เพื่อการค้นคว้าและพัฒนาพืชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่เผยข้อมูลโภชนาการและสรรพคุณของอะโวคาโดไว้ ดังนี้

1. เนื้ออะโวคาโดประกอบไปด้วยไขมันชนิดไม่อิ่มตัวประมาณ 4-20% แล้วแต่พันธุ์ โดยกรดไขมันในอะโวคาโด 70% เป็นกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (monounsaturated fatty acid) ซึ่งกรดไขมันชนิดนี้มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยลดปริมาณไขมันชนิดเลว (LDL-cholesterol) และเพิ่มปริมาณไขมันชนิดดี (HDL-cholesterol) ในเลือด ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ดังนั้นคนเป็นโรคไขมันในเลือดสูงก็บริโภคผลไม้ชนิดนี้ได้ รวมไปถึงผู้ป่วยโรคเบาหวานก็สามารถบริโภคอะโวคาโดได้ด้วยนะคะ เพราะอะโวคาโดมีน้ำตาลค่อนข้างต่ำในระดับที่ปลอดภัยต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน ทว่าก็ควรบริโภคแต่เพียงน้อย สลับกับการบริโภคอาหารชนิดอื่น ๆ ร่วมด้วย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน

2. วิตามินสูง ประกอบด้วย

- วิตามินเอ (เบต้าแคโรทีน) ช่วยบำรุงสายตา

- วิตามินบี ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ปากนกกระจอก ลดอาการอักเสบ

- วิตามินซีช่วยป้องกันหวัด เลือดออกตามไรฟัน

- วิตามินอี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ร่างกายจากมลพิษทางอากาศ น้ำ และอาหาร ป้องกันร่างกายจากโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ รวมทั้งโรคหัวใจ

3. อุดมไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหารที่จำเป็นสำหรับร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นโซเดียม โพแทสเซียม โฟเลต ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดคอเลสเตอรอล โดยเฉพาะโฟเลตนั้น เป็นสารอาหารที่สำคัญสำหรับหญิงที่ตั้งครรภ์ เนื่องจากโฟเลตเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและสร้างเนื้อเยื่อของทารก

4. โปรตีนสูงกว่าผลไม้สดอื่น ๆ ประมาณ 0.8-1.7% โดยให้ค่าพลังงานความร้อนต่อร่างกายสูง แต่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำ จึงถือว่าเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย มีเส้นใยสูง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อระบบขับถ่าย

5. อะโวคาโด ช่วยลดน้ำตาลในเลือด โดยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่มีอยู่ในอะโวคาโด เป็นไขมันชนิดละลายได้ มีคุณสมบัติช่วยชะลอการย่อยอาหาร ซึ่งจะช่วยคงสมดุลระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้พุ่งกระฉูดหลังจากที่รับประทานอาหารเข้าไปแล้ว อีกทั้งสารที่มีในไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวยังช่วยละลายอินซูลิน ส่งผลรวมไปถึงการลดระดับน้ำตาลในเลือดได้นั่นเอง

6. อะโวคาโด ลดน้ำหนักได้ ซึ่งแม้อะโวคาโดมีแคลอรีประมาณ 500 กิโลแคลอรีต่อน้ำหนักเนื้อ 1 กิโลกรัม ก็จริง แต่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำ มีน้ำตาลต่ำ ดังนั้นรับประทานแล้วไม่อ้วน และนอกจากอะโวคาโดจะมีไฟเบอร์สูงแล้ว ในเนื้อของอะโวคาโดยังมีกรดโอเลอิก (Oleic Acid) ซึ่งเป็นไขมันที่ทำให้สมองสั่งการให้เรารู้สึกอิ่ม ดังนั้นถ้าจะบอกว่า อะโวคาโดช่วยลดน้ำหนักได้ ก็ถือว่าไม่ผิดนัก

ที่สำคัญ ดร.โยน ซาเบต หัวหน้างานวิจัยด้านโภชนาการของมหาวิทยาลัยโลมา ลินดา รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ยังเผยผลวิจัยว่า การรับประทานอะโวคาโด 1 ผล ในอาหารมื้อกลางวัน สามารถลดความต้องการในการรับประทานอาหารว่างประเภทขบเคี้ยวได้ถึง 40% ทำให้ลดปัญหาเรื่องน้ำหนักเกินได้อีกด้วยนะ

ประโยชน์ของอะโวคาโด

นอกจากสรรพคุณอะโวคาโดทางด้านสุขภาพและร่างกายแล้ว อะโวคาโดยังมีประโยชน์ต่อความสวยความงามของเรา ดังนี้

อะโวคาโด หมักผม บำรุงผิวพรรณชุ่มชื้น

เนื่องจากอะโวคาโดมีปริมาณไขมันชนิดดีค่อนข้างเยอะ และเป็นไขมันที่สำคัญกับเซลล์ผิวหนังของเราเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะคนที่มีผิวแห้งกร้าน สามารถนำไขมันของอะโวคาโดมาบำรุงผิวพรรณให้กลับมานุ่มชุ่มชื้นได้เลย โดยสูตรความสวยทำได้ ดังนี้

สูตร 1 บำรุงได้ทั้งผมและผิว

- อะโวคาโด ½ ลูก

- น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ

- โยเกิร์ต ½ ถ้วย

นำส่วนผสมทั้ง 3 อย่างมาผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำมาพอกหน้าไว้ จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าและผม ในขณะที่น้ำผึ้งจะทำให้ผมดูเงางามขึ้นด้วย

สูตร 2 บำรุงผิวแบบเข้มข้น

- อะโวคาโด ½ ลูก

- น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ

- ไข่ขาว 1 ลูก

นำส่วนผสมทั้ง 3 อย่างมาผสมให้เข้ากันอย่างเดิม แล้วพอกทิ้งไว้ น้ำมะนาว และไข่ขาว จะช่วยลดความมันบนใบหน้า เหมาะสำหรับคนที่มีสิวง่าย ส่วนคนที่ต้องการนำไปหมักผม ไข่ขาวจะช่วยเพิ่มโปรตีนให้เส้นผมแข็งแรงขึ้น ส่วนน้ำมะนาวจะช่วยทำให้เส้นผมเงางาม

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น