WHAT'S NEW?
Loading...

รู้แล้วอย่ากินบ่อย! อาหาร 16 อย่างที่อาจก่อมะเร็งได้

Advertisements

Advertisements

รู้แล้วอย่ากินบ่อย! อาหาร 16 อย่างที่อาจก่อมะเร็งได้

มะเร็งคือหนึ่งในโรคร้ายที่คร่าชีวิตประชากรโลกและเราสามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่ก็มีหลายสถานการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุมของเรา อย่างเช่นมีอาหารบางประเภทที่เมื่อเรารับประทานเข้าไปแล้วกลับเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคนี้

น่าเสียดายที่คนส่วนใหญ่ไม่ให้ความสนใจกับสิ่งที่พวกเขาบริโภคเข้าไป ดังนั้นจงหลีกเลี่ยงอาหารทั้ง 16 ชนิดนี้หรือจำกัดปริมาณเพื่อลดโอกาสในการเป็นโรคมะเร็ง

1. เนื้อสัตว์แปรรูป

น่าเสียดายที่อาหารอย่างเช่น แฮม ไก่งวง เบคอน ไส้กรอก หรือแม้แต่ฮอทด็อกนั้นเต็มไปด้วยสารกันบูดเพื่อช่วยให้เนื้อสัตว์ดูมีสภาพสดใหม่และน่ารับประทาน ทว่าสารเหล่านี้ล้วนก่อมะเร็งในร่างกายมนุษย์ โดยทั้งโซเดียมไนเตรทกับโซเดียมไนไตรท์จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ควรเลือกผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ที่ปลอดสารกันบูด หรือควรรับประทานแต่พอเพียง ส่วนผู้ที่รับประทานเป็นประจำก็ได้เวลาแล้วที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสุขภาพ

2. น้ำอัดลม

หากบริโภคมากเกินไปก็ส่งผลเสียต่อร่างกายไม่ต่างจากผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูป ของเหลวหลากสีสันเหล่านี้ล้วนอัดแน่นไปด้วยน้ำตาล สารเคมี และสีผสมอาหารซึ่งจะทำให้ร่างกายเป็นกรดและเร่งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ดังนั้นควรหันมาดื่มน้ำผลไม้ที่คั้นสดๆจะดีกว่า หรือหากอดใจไม่ได้จริงๆก็ควรรับประทานแต่พอเหมาะอาจจะแค่อาทิตย์ละ 1 ครั้งก็พอ

3. ป๊อบคอร์นแบบอบในไมโครเวฟ

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกับการหาซื้อป๊อบคอร์นที่มีคุณภาพพอๆกับที่จำหน่ายบริเวณหน้าโรงภาพยนตร์ แต่การหาซื้อป๊อบคอร์นแบบอบในไมโครเวฟก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกง่ายๆกับการมีความสุขอยู่ที่บ้าน แต่ปรากฎว่าป๊อบคอร์นเหล่านี้ก็เต็มไปด้วยสารเคมีซึ่งนอกจากจะทำให้หมดสมรรถภาพทางเพศแล้ว ยังทำให้เป็นมะเร็งตับ มะเร็งอัณฑะ และมะเร็งตับอ่อนด้วย ที่สำคัญยังมีสารปนเปื้อน PFOS ซึ่งพบได้ด้านในถุงและทำให้เกิดเนื้องอกภายในร่างกายมนุษย์ ส่วนสารเคมีในป๊อบคอร์นจะไปทำลายปอดและทำให้เป็นมะเร็งได้เช่นกัน ดังนั้นจงเลิกซะ!

4. อาหารแช่แข็ง

อาหารแช่แข็งเป็นทางเลือกของผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายและรวดเร็ว แต่หารู้ไม่ว่าอาหารเหล่านี้ส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราอย่างไม่น่าเชื่อ ว่ากันว่าแย่ยิ่งกว่าน้ำอัดลมเสียอีก หลายคนเชื่อว่าอาหารแช่แข็งดีต่อสุขภาพแต่อันที่จริงสิ่งที่ทำให้อาหารสดใหม่นั่นล่ะคือมัจจุราชตัวจริงที่ซ่อนอยู่ในบรรจุภัณฑ์ อย่างไรก็ตามควรรับประทานแต่พอดี

5. น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์

การรับประทานน้ำตาลในปริมาณมากย่อมส่งผลเสียต่อร่างกาย ส่วนน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์เป็นที่รู้กันว่าจะไปยับยั้งการเพิ่มปริมาณของอินซูลินและทำให้เซลล์มะเร็งเจริญเติบโตในร่างกาย สารให้รสหวานอย่างคอร์นไซรัปขึ้นชื่อว่าเป็นตัวการที่เลวร้ายที่สุด ผู้ที่รับประทานน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์มากเกินไปจะทำให้เซลล์มะเร็งกระจายไปทั่วร่างกายอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นคุกกี้ เค้ก พาย น้ำอัดลม ซอส น้ำผลไม้สำเร็จรูปและอาหารแปรรูปอื่นๆอีกมากมาย ที่สำคัญเซลล์มะเร็งในร่างกายจะกินน้ำตาลประเภทนี้มากกว่าเซลล์ปกติเสียอีก

6. เนื้อสัตว์สีแดง

การรับประทานเนื้อสัตว์สีแดงจะช่วยเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง เนื่องจากการรับประทานในปริมาณมากจะทำให้เซลล์มะเร็งเจริญเติบโตในร่างกายและอาจกลายเป็นมะเร็งทวารหนัก ขณะที่การรับประทานแต่พอดีจะส่งผลดีต่อสุขภาพของคุณ อย่างไรก็ตามควรเลือกบริโภคเนื้อสัตว์ที่ผ่านการเลี้ยงดูด้วยวิธีธรรมชาติ ส่วนการรับประทานเนื้อปลากับเนื้อไก่จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง

7. ผลไม้ปนเปื้อน

คนส่วนใหญ่มักคิดว่าผลไม้ประเภทแอปเปิ้ล องุ่น หรือสตรอเบอร์รี่จะส่งผลดีต่อสุขภาพมากกว่าผลไม้ชนิดอื่นๆ แต่น่าเสียดายที่ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับประทานผลไม้ที่ปนเปื้อนยาฆ่าแมลงจะเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเป็นมะเร็งสูงมาก ที่สำคัญพบว่าผลไม้ร้อยละ 90 มียาฆ่าแมลงปนเปื้อนอยู่และการล้างน้ำก็ไม่สามารถชำระล้างสารตกค้างเหล่านี้ออกไปได้ ดังนั้นควรพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนที่จะซื้อมารับประทาน

8. อาหารกระป๋อง

อาหารกระป๋องส่วนใหญ่ที่จำหน่ายในร้านขายของใกล้บ้านคุณมีคุณภาพน่าเป็นห่วงมาก แต่ดูเหมือนว่ามะเขือเทศกระป๋องจะแย่ที่สุดนะ ภายในกระป๋องจะมีสารเคมีที่ชื่อว่า Bisphenol-A หรือ BPA ซึ่งมีพิษสูงและจะไปเร่งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งในร่างกายมนุษย์ นอกจากนี้อันตรายยังเกิดขึ้นจากการที่มะเขือเทศมีความเป็นกรดสูงซึ่งสามารถทำให้สาร BPA ที่อยู่ในกระป๋องซึมลงไปในอาหารได้ เพื่อหลีกเลี่ยงสารเคมีเหล่านี้ผู้บริโภคควรซื้อมะเขือเทศสดหรือซอสมะเขือเทศในขวดแก้ว แต่จะให้ดีที่สุดควรเลิกรับประทานอาหารกระป๋องทุกชนิด!

9. ปลาแซลมอนเลี้ยง

ปลาขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด แต่ปลาแซลมอนเลี้ยงคือสิ่งที่คุณควรหลีกเลี่ยง ปลาเหล่านี้จะได้รับอาหารที่เต็มไปด้วยสารเคมี ยาปฏิชีวนะ ยาฆ่าแมลง และสารก่อมะเร็งต่างๆซึ่งสามารถพบได้มากกว่าปลาแซลมอนตามธรรมชาติราว 30 เท่า สารเหล่านี้จะทำให้เนื้อปลามีสีสวยสด นอกจากนี้ปลาแซลมอนเลี้ยงยังมีโอเมก้า 3 น้อยกว่าปกติ รวมทั้งมีปรอทในปริมาณที่สูงและไดอ๊อกซินที่ก่อให้เกิดมะเร็ง

10. แผ่นมันฝรั่งทอดกรอบ

แผ่นมันฝรั่งทอดกรอบบอกได้เลยว่าเมื่อได้กินครั้งหนึ่งแล้วชิ้นเดียวไม่เคยพอแถมวางไม่ลงอีกต่างหาก เมื่อรับประทานควบคู่กับการชมซีรีส์เรื่องโปรดบนโซฟานุ่มๆ แผ่นมันฝรั่งทอดกรอบเหล่านี้มีสารอะคริลาไมด์สูงซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง และสารตัวนี้จะออกฤทธิ์เมื่อมีการทอดหรืออบอาหารในอุณหภูมิที่สูง นอกจากนี้แผ่นมันฝรั่งยังมีสารแต่งกลิ่นสังเคราะห์ สีผสมอาหาร รวมถึงสารกันบูดอื่นๆอีกมากมาย เราควรเลือกมันฝรั่งอบหรือแผ่นข้าวโพดทอดกรอบน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเนื่องจากมีไขมันกับแคลอรี่ต่ำ อย่างไรก็ตามสำหรับอาหารทานเล่นควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะเช่นกัน

11. น้ำมันพืชชนิดเติมไฮโดรเจน

น้ำมันพืชเติมไฮโดรเจนมักนิยมนำมาใช้เพื่อเก็บรักษาอาหารแปรรูปและสามารถอยู่บนชั้นวางนานๆได้โดยไม่เสียรสชาติ น้ำมันพืชชนิดนี้เป็นไขมันทรานส์ที่อันตรายที่สุดและมีแนวโน้มก่อให้เกิดโรคมะเร็งสูงมาก ส่วนน้ำมันพืชที่มีส่วนผสมของกรดไขมันโอเมก้า 6 สูงซึ่งหากรับประทานมากเกินไปก็จะเป็นโทษต่อร่างกายเช่นกัน

12. อาหารหมัก ดอง รมควัน

สารไนเตรทไม่ได้ทำให้เกิดมะเร็งได้โดยตรงแต่ในบางสถานการณ์สารเคมีอาจเปลี่ยนไปเป็นสารประกอบไนโตรโซซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเป็นมะเร็งบางชนิดได้ การรมควันอาหารเช่น เนื้อสัตว์หรือถั่วจะทำให้เกิดการซึมซับทาร์ที่อยู่ในควัน และอาหารแปรรูปเช่น เบคอน ไส้กรอก โบโลญน่า และซาลามี่ล้วนมีไขมันและเกลือสูง ขณะที่การหมักดองก็ต้องใช้ปริมาณเกลือสูงมากเช่นกันจนอาจทำให้เป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักได้ ส่วนที่ญี่ปุ่นมีอัตราการเป็นโรคมะเร็งในกระเพาะอาหารสูงอันเนื่องมาจากการรับประทานอาหารรมควันหรืออาหารหมักเกลือในปริมาณมากเป็นประจำนั่นเอง

13. สารให้ความหวานสังเคราะห์

สารให้ความหวานสังเคราะห์เป็นที่นิยมมากสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือหลีกเลี่ยงการรับประทานน้ำตาล แต่ปัญหาคือผู้ที่บริโภคเครื่องดื่มที่เติมสารให้ความหวานเหล่านี้ เช่น กาแฟหรือน้ำอัดลมก็มีแนวโน้มที่น้ำหนักตัวจะเพิ่มขึ้นอยู่ดี นอกจากนี้ยังไม่มีประโยชน์อะไรกับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานแถมยังทำให้ร่างกายปรับระดับน้ำตาลในกระแสเลือดได้ลำบากกว่าปกติอีกด้วย สารเคมีในสารให้ความหวานคือสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการชักกระตุกในบางคนและสารเหล่านี้จะกลายเป็นสารพิษที่มีชื่อว่า DKP และเมื่อร่างกายทำปฏิกิริยากับสารพิษตัวนี้มันจะผลิตสารที่ทำให้เกิดเนื้องอกในสมอง

14. แอลกอฮอล์

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มักสร้างปัญหาให้กับร่างกายมนุษย์ ผลการวิจัยเปิดเผยว่าผู้หญิงราว 200,000 คนที่ดื่มเหล้าวันละ 1 แก้วหรือน้อยกว่านั้นจะมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมมากกว่าผู้ที่ไม่ได้ดื่มเลยเกือบร้อยละ 30 ปัจจุบันเหล้าคือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เป็นโรคมะเร็งรองลงมาจากการสูบบุหรี่ การดื่มเหล้าในปริมาณที่เหมาะสมจะส่งผลดีต่อสุขภาพ อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ แต่การบริโภคมากเกินไปอาจทำให้หัวใจล้มเหลว Stroke หรือ sudden death นอกจากนี้ยังเพิ่มโอกาสในการเป็นมะเร็งปาก มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งทวารหนัก รวมถึงมะเร็งเต้านมด้วย

15. แป้งขัดสี

แป้งขัดสีเป็นส่วนผสมที่พบเห็นได้ทั่วไปในอาหารแปรรูปส่วนใหญ่ แต่การรับประทานแป้งมากเกินไปจะกลายเป็นโทษต่อร่างกายเนื่องจากคาร์โบไฮเดรตบริสุทธิ์จะช่วยเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมในผู้หญิงมากขึ้นถึง 220 % กรรมวิธีการขัดสีต้องใช้ก๊าซคลอรีนที่หากสูดดมเข้าไปในร่างกายมากๆจะทำให้เกิดการระคายเคืองที่อันตรายและอาจพบเป็นเนื้องอกได้ในที่สุด ดังนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดคือการรับประทานแป้งที่ไม่ผ่านการขัดสี

16. เฟรนช์ฟรายส์

เฟรนช์ฟรายส์ก็มีสารก่อมะเร็งอะคริลาไมด์สูงไม่ต่างอะไรจากแผ่นมันฝรั่งทอดกรอบ คุณควรจำกัดปริมาณในการรับประทานเฟรนช์ฟรายส์หรือหาตัวเลือกอื่นที่มีคุณค่าต่อร่างกายมากกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งภายในร่างกาย

เครดิต: issue247.com

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น