ไม่ต้องซื้อครีมแพงๆ! ผิวเริ่ดหน้าใสได้ ด้วยผักในตู้เย็น

ไม่ต้องซื้อครีมแพงๆ! ผิวเริ่ดหน้าใสได้ ด้วยผักในตู้เย็น

หลังเทศกาลงานเลี้ยงผ่านพ้นไป อาจมีผักและผลไม้แสนอร่อยหลงเหลืออยู่ อย่าให้เสียของ เอามาทำบิวตี้โปรดักส์เพิ่มความงามกันเถอะ นอกจากประหยัดแล้วยังได้ความสวยกลับคืนมาอีกด้วย

อย่างที่รู้ๆ กัน ความงามเริ่มต้นขึ้นจากครัวของเรานี่เอง “ผักและผลไม้มากมายที่ซื้อมาฉลองตอนปาร์ตี้ หลังจากความสนุกสนานจบลง ของเหลือจะทิ้งไว้ก็เสียเปล่า ผักและผลไม้พวกนี้มีประโยชน์ ทั้งวิตามินและสารแอนตี้ออกซิแดนท์ช่วยให้ผิวแจ่ม ไม่ทำให้แพ้ ไม่มีสารเคมี น้ำหอมหรือสารกันบูด” เจสสิก้า วู (Jessica Wu, M.D.) คุณหมอด้านผิวหนังในลอสแองเจลิสและผู้เขียนหนังสือ Feed You Face เล่าสู่กันฟัง เอาล่ะทีนี้ เรามาเริ่มลงมือทำผลิตภัณฑ์บำรุงความงามดีๆ กันได้แล้ว

มาสก์ฟักทองผสมน้ำผึ้ง หวานหอม

ฟักทองเป็นหนึ่งในผลไม้มหัศจรรย์ แม้จะไม่ให้ผลลัพธ์ดีมากที่สุดก็เถอะ แต่มีประโยชน์ต่อผิวไม่น้อยเลยเชียว เพราะมีทั้งวิตามินเอ สารแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยลดการอักเสบผิวและยับยั้งแบคทีเรียหรือเชื้อรา ฟักทองช่วยปลอบประโลมผิวแพ้ง่ายและลดอาการผิวแดงเป็นปื้น พญ.วู ออกความเห็นว่า “เพราะในเนื้อฟักทองมีเบต้าแคโรทีนอยู่ ช่วยลดเลือนริ้วรอยพร้อมๆ กับชะลอการลดลงของคอลลาเจนในผิว”

ทำเองได้ที่บ้าน :ใส่เนื้อฟักทองต้มสุกบดละเอียด ¼ ถ้วยกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะลงในชามเล็กๆ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ทาลงบนผิวหน้าที่ล้างสะอาดแล้ว ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แนะนำให้ทำก่อนนอน เหมาะกับสาวๆ ที่ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส (ระวังเนื้อมาสก์จะเปื้อนเสื้อผ้า ควรใส่เสื้อเก่าหรือสวมผ้ากันเปื้อนจะดีกว่านะคะ) จากนั้น ล้างออกให้สะอาด เช็ดผิวให้แห้ง จะรู้สึกว่าผิวสะอาดและนุ่มนวลขึ้น เพราะมาสก์ช่วยเติมความชุ่มชื่น เพิ่มน้ำมันธรรมชาติแก่ผิว มาสก์สัปดาห์ละครั้งหรือเมื่อผิวมีรอยแดงหรือระคายเคือง

สครับหน้าแครนเบอร์รี่ จี๊ดจ๊าด

เจ้าผลไม้สีแดงสดลูกจิ๋วๆ แต่เต็มไปด้วยเอลลาจิก แอซิดที่มีโพลีฟีนอลอันเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์หลักๆ ของเบอร์รี่ทั้งหลาย คุณหมอวูกล่าวว่า “เอลลาจิก แอซิด ช่วยป้องกันการรวมตัวของแมทริกซ์ เมทัลโลโปรตีน (MMP) เอ็นไซม์ที่ทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในเซลล์ผิว ตลอดจนป้องกันและลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากรังสี UVB”

ทำเองได้ที่บ้าน :นำแป้งข้าวโพด ¼ ถ้วย แครนเบอร์รี่สดสับหยาบๆ 2 ช้อนโต๊ะ บัตเตอร์มิลค์ (นมเปรี้ยวพร่องมันเนยหรือทำเองได้จากนำนมผสมกับน้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาว) 1 ช้อนโต๊ะและน้ำผึ้ง 2 ช้อนชา ใช้ส้อมคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน นำสครับมาทาและขัดผิวหน้ารวมถึงลำคอประมาณ 2-3 นาที ล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น ช่วยให้ผิวสะอาด สดใส ควรทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

สครับเท้าเปเปอร์มินต์ เย็นสดชื่น

เปปเปอร์มินต์หรือสะระแหน่ไม่ได้มีไว้สำหรับปากหอมเท่านั้น แต่ประยุกต์มาใช้กับส่วนอื่นๆ ได้ ช่วยให้เย็นสดชื่นและผ่อนคลาย “เปปเปอร์มินต์ช่วยบรรเทาและกระตุ้นพลังไปพร้อมๆ กัน แล้วยังช่วยลดแบคทีเรีย การติดเชื้อและระงับกลิ่นอับ เหมาะสุดๆ สำหรับขาและเท้า โดยเฉพาะสาวๆ ที่ชอบใส่รองเท้าแบบปิดหรือบู๊ตทั้งวัน” พญ. วูชี้แจง

ทำเองได้ที่บ้าน :ผสมน้ำมันหอมระเหยเปปเปอร์มินต์ 3 หยดกับใบมินต์สดสับ ½ ถ้วย เกลือป่นหยาบ 1 ถ้วย น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าว 5 ช้อนโต๊ะและผงโกโก้ 1 ช้อนโต๊ะเข้าด้วยกัน ก่อนขัดเท้าให้แช่เท้าในน้ำอุ่นๆ ก่อนประมาณ 10-15 นาที จากนั้นเริ่มการขัดตั้งแต่นิ้วเท้าจนถึงหัวเข่าอย่างเบาๆ วนเป็นวงกลมให้ทั่วเรียวขา โดยเฉพาะบริเวณที่ผิวด้านแล้วล้างออกให้สะอาด

สครับตัวน้ำตาลซินนามอนและเครื่องเทศ หอมอบอวล

การช็อปปิ้งหรือแดนซ์ในปาร์ตี้ทั้งคืนสร้างความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ซินนามอนช่วยคุณได้ค่ะ จานีซ ค็อกซ์ (Janice Cox) ผู้ร่วมเขียน Ecobeauty บอกว่า “ซินนามอนช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด เติมพลังงานและมอบผิวเปล่งปลั่ง” แถมยังลดแบคทีเรียและเชื้อราสาเหตุของการเกิดสิวที่แผ่นหลังได้ด้วย

ทำเองได้ที่บ้าน :ผสมน้ำตาล 1 ถ้วย น้ำมันวอลนัต ¼ ถ้วยและซินนามอน(อบเชย)บด ½ ช้อนชา คนให้เข้ากันแล้วเลือกภาชนะที่จะนำเข้าไปอาบน้ำ จากนั้น ทาส่วนผสมข้างต้นให้ทั่วตัวที่เปียกน้ำหมาดๆ นวดเบาๆ เ สร็จแล้วล้างออกให้สะอาด

บำรุงผิวหน้าด้วยน้ำแอปเปิ้ล หอมกรุ่น

คำพูดที่ว่าแอปเปิ้ลวันละลูกดีต่อสุขภาพนั้นเป็นจริงเสมอ ต้องขอบคุณคุณค่าต่างๆ ในผลไม้ชนิดนี้ที่ช่วยลดความมันส่วนเกินแต่ไม่ทำให้ผิวแห้ง “อะซีติก แอซิดเป็นสารสมานผิวที่อ่อนโยน พร้อมกับลดอาการอักเสบผิว ทำให้รูขุมขนสะอาด ไม่มีไขมันอุดตันและไม่มีแบคทีเรีย มาลิก แอซิด (กรดผลไม้ที่พบในแอปเปิ้ล) เป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ช่วยป้องกันผิวจากมลภาวะแวดล้อม” ค็อกซ์ให้รายละเอียด นอกจากนี้แล้วเอนไซม์อะมีเลส (เอนไซม์ที่เปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาล) จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไป ลดการสะสมของสิ่งสกปรกบนผิว

ทำเองได้ที่บ้าน :นำน้ำแอปเปิ้ล ¼ ถ้วย สารสกัดจากวิช ฮาเซล 4 ช้อนโต๊ะ (หาซื้อได้ที่ร้านขายน้ำมันหอมระเหย) ผสมเข้าด้วยกัน เทลงในขวดสะอาดๆ เพื่อเก็บไว้ใช้ วิธีใช้เทโทนเนอร์ข้างต้นลงบนแผ่นสำลีเช็ดผิวหน้าให้ทั่วหลังล้างหน้าเสร็จแล้ว ใช้ได้เช้าและเย็น หลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตา (ถ้าเป็นสาวผิวแห้งใช้วันละหนก็พอ)

เครดิต: womenshealththailand.com