ลองทำดูนะ..วิธีการและขั้นตอนชำระหนี้สงฆ์ ลดกรรมให้เบาบางลง ทำแล้วชีวิตดีขึ้น
ชาวพุทธทุกคนคงต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ข้องเกี่ยวกับวัดหรือพระสงฆ์อยู่เสมอ และคงต้องมีบางครั้งที่เผลอไปหยิบเอาสมบัติเล็กๆน้อยๆของสงฆ์มาแบบไม่ได้ตั้งใจซึ่งแม้จะเกิดขึ้นด้วยความไม่ตั้งใจ แต่สิ่งเหล่านี้ก็นับเป็น “หนี้สงฆ์” ที่มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของเราได้ในอนาคต
หากใครไม่อยากติดหนี้สงฆ์หรือกลัวว่าตัวเองเคยติดหนี้สงฆ์อยู่
ลองมาศึกษาวิธีแก้ไขกันหน่อยดีกว่าค่ะ
เพื่อความเจริญรุ่งเรืองในอนาคตต่อๆไป
ส่วนหนึ่งในหนังสือ “หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม” ฉบับพิเศษ เล่ม 1 ที่อธิบายรายละเอียดของการติดหนี้สงฆ์เอาไว้ ดังนี้
“ …โดยของที่ถือว่าเป็นของสงฆ์นั้น คือของในวัดทุกประการที่เขาถวายเป็นของสงฆ์แล้ว แม้แต่ดอกไม้ ผลไม้ในวัดเศษไม้ที่คิดว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว เอามาทำฟืนบ้าง ทำอย่างอื่นเล็กๆ น้อยๆ บ้าง จงอย่าคิดว่าไม่มีบาปแม้แต่เศษกระเบื้องที่ทิ้งแล้ว ก็เป็นของสงฆ์ มีผลเสมอกัน …”
กล่าวโดยสรุปได้ว่า ของในวัดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ธูปเทียน ดอกไม้ เศษกระเบื้อง อาหารที่เหลือจากบาตรพระ ถ้าจะเอามาใช้หรือกินต้องมีมติจากสงฆ์เสียก่อน เพราะของเหล่านี้เป็นของส่วนรวมของสงฆ์ หากไปนำมาโดยไม่ได้รับอนุญาต ก็จะถือว่าเป็นบาป
ความไม่รู้ ความไม่สำรวมในวัด อาจทำให้คุณเผลอไปหยิบฉวยอะไรเล่น หรือหยิบอะไรติดไม้ติดมือกลับมาโดยไม่ตั้งใจแล้วไม่ได้นำไปคืน รวมไปถึงการซื้อดอกไม้ธูปเทียนในวัดที่ไม่ได้หยอดเงินใส่ตู้ด้วยมือของตัวเองด้วย ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นการติดหนี้สงฆ์ทั้งนั้น
3. สร้างพระชำระหนี้สงฆ์ถวายในพระศาสนา เป็นพระพุทธรูปตั้งแต่ 5 นิ้วขึ้นไปจนถึง 4 ศอกหรือมากกว่านั้น พร้อมอธิษฐานถวายชำระหนี้โดยปิดทองคำแท้ที่องค์พระด้วยตั้งแต่ 3 แผ่นขึ้นไปหรือทั้งองค์ยิ่งดี
หนี้สงฆ์จะหมดสิ้นไป หากหมั่นขออโหสิกรรมบ่อยๆ เพราะกรรมที่เราทำนั้นไม่ได้มีแค่กรรมเดียว ซึ่งจะเห็นได้ว่า คนที่หมั่นชำระหนี้สงฆ์ตลอดเวลาจะมีชีวิตที่ดีขึ้น โรคเวรโรคกรรมหายขาด เงินทองไม่ติดขัด หรือกลายเป็นคนมีเงินได้อย่างน่าอัศจรรย์
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก torthammarak.wordpress.com
“ …โดยของที่ถือว่าเป็นของสงฆ์นั้น คือของในวัดทุกประการที่เขาถวายเป็นของสงฆ์แล้ว แม้แต่ดอกไม้ ผลไม้ในวัดเศษไม้ที่คิดว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว เอามาทำฟืนบ้าง ทำอย่างอื่นเล็กๆ น้อยๆ บ้าง จงอย่าคิดว่าไม่มีบาปแม้แต่เศษกระเบื้องที่ทิ้งแล้ว ก็เป็นของสงฆ์ มีผลเสมอกัน …”
กล่าวโดยสรุปได้ว่า ของในวัดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ธูปเทียน ดอกไม้ เศษกระเบื้อง อาหารที่เหลือจากบาตรพระ ถ้าจะเอามาใช้หรือกินต้องมีมติจากสงฆ์เสียก่อน เพราะของเหล่านี้เป็นของส่วนรวมของสงฆ์ หากไปนำมาโดยไม่ได้รับอนุญาต ก็จะถือว่าเป็นบาป
ความไม่รู้ ความไม่สำรวมในวัด อาจทำให้คุณเผลอไปหยิบฉวยอะไรเล่น หรือหยิบอะไรติดไม้ติดมือกลับมาโดยไม่ตั้งใจแล้วไม่ได้นำไปคืน รวมไปถึงการซื้อดอกไม้ธูปเทียนในวัดที่ไม่ได้หยอดเงินใส่ตู้ด้วยมือของตัวเองด้วย ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นการติดหนี้สงฆ์ทั้งนั้น
ยกตัวอย่างเช่น
เคยมีผู้หญิงคนหนึ่งป่วยเป็นโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ และพบว่าในอดีตชาติเคยไปยืมร่มกระดาษของวัดแล้วทำเสียหาย จึงไม่กล้าเอาไปคืนและทำเฉยๆ ไป พระที่ให้ยืมท่านก็รู้สึกเสียดายแต่ก็ไม่รู้จะไปตามที่ไหน ทำให้ผลกรรมปรากฎออกมากับหญิงผู้นี้ในรูปแบบการป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจที่หายใจติดขัดอยู่ตลอด ยิ่งมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำหรือต้องตัดสินใจ ก็จะเกิดอาการนี้ขึ้นทันที เป็นต้นวิธีการชำระหนี้สงฆ์
1. เวลาไปที่วัดไหน ถ้าเห็นตู้บริจาคที่เขียนติดไว้ว่าชำระหนี้สงฆ์ ก็ขอให้ทำบุญไปเถิดจะบาทเดียว สลึงเดียวก็ทำได้ทั้งนั้น เพราะเชื่อว่าในอดีตชาติและปัจจุบันชาติของทุกคนต้องเคยเป็นหนี้สงฆ์กันมาบ้าง แม้จะไม่ตั้งใจก็ตาม 2. คนที่ยืมของอะไรจากวัดไป แล้วยังไม่ได้นำไปคืน แนะนำว่าให้เอาเงินที่มูลค่าเท่ากับหรือมากกว่าไปถวายวัด และขออโหสิกรรมต่อหน้าพระสงฆ์หรือนำไปอธิษฐานจิตกล่าวคำขอขมาขออโหสิกรรมต่อหน้าพระพุทธรูปก็ได้3. สร้างพระชำระหนี้สงฆ์ถวายในพระศาสนา เป็นพระพุทธรูปตั้งแต่ 5 นิ้วขึ้นไปจนถึง 4 ศอกหรือมากกว่านั้น พร้อมอธิษฐานถวายชำระหนี้โดยปิดทองคำแท้ที่องค์พระด้วยตั้งแต่ 3 แผ่นขึ้นไปหรือทั้งองค์ยิ่งดี
หนี้สงฆ์จะหมดสิ้นไป หากหมั่นขออโหสิกรรมบ่อยๆ เพราะกรรมที่เราทำนั้นไม่ได้มีแค่กรรมเดียว ซึ่งจะเห็นได้ว่า คนที่หมั่นชำระหนี้สงฆ์ตลอดเวลาจะมีชีวิตที่ดีขึ้น โรคเวรโรคกรรมหายขาด เงินทองไม่ติดขัด หรือกลายเป็นคนมีเงินได้อย่างน่าอัศจรรย์
ตัวอย่างคำอธิษฐานทั่วๆไป
ข้าพเจ้า (ชื่อ – นามสกุล)……………………ขอน้อมเอาผลบุญทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นจาก (กล่าวชื่อของทาน อาทิ ถวายปัจจัย ทรัพย์สินเงินทอง ถวายกฐิน ผ้าป่า สิ่งของ ฯลฯ (ตลอดจน การให้อภัยทาน ให้ธรรมทาน การรักษาศีล และการเจริญภาวนา(ถ้ามี))ในครั้งนี้หรือวันนี้ เมื่อเวลา ….. สถานที่… (ในกรณีที่ไม่ได้กล่าวอุทิศ ในสถานที่ทำบุญนั้น แต่กลับมากล่าวอุทิศในที่พัก ที่บ้าน ในภายหลัง) อุทิศให้แก่……………… (กล่าวอุทิศตามปกติ) ขออานิสงส์ผลบุญนี้ จงเป็นพละปัจจัยให้ข้าพเจ้า…..(ชื่อและนามสกุลหรือผู้อื่นในกรณีอุทิศให้ผู้อื่น) ปรารถนาสิ่งใดก็ให้ว่าไป โดยต้องเป็นสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม อาทิ เพื่อความสำเร็จต่าง ๆ ให้ธุรกิจการงานราบรื่น มีผลกำไรดี ให้คิดดี พูดดี ทำดีต่อกัน สนับสนุนกัน ขอให้หายเจ็บไข้ได้ป่วย ให้พ้นจากภาวะทุกข์ทั้งหลาย ปัญหาอุปสรรคทั้งหลายที่เป็นอยู่ (ระบุ บอกรายละเอียด) ฯลฯ…นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปเทอญขอบคุณข้อมูลดีๆจาก torthammarak.wordpress.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น