แม่บ้านมีปลื้ม!! เทคนิคพิเศษที่จะช่วยให้ห้องน้ำสะอาดและมีกลิ่นหอมเสมอ แม้ไม่ได้ล้างบ่อยๆ
จะมีใครที่ชอบล้างห้องน้ำ ขัดๆถูๆในห้องที่แสนสกปรกและมีกลิ่น เพราะการทำความสะอาดห้องน้ำเป็นงานที่น่าเบื่อสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม การดูแลบ้านให้สะอาดก็ยังเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดี
แต่ถ้าคุณขี้เกียจนัก เราก็มีวิธีง่ายๆในการทำให้ห้องน้ำดูสะอาดและหอมสดชื่นตลอดเวลา ไม่นำพามาซึ่งเชื้อโรคต่างๆมากมาย จะต้องทำอย่างไรตามมาดูกันเลย
น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำ ที่มีขายอยู่ทั่วไปตามท้องตลาด ต่างบอกว่าตัวเองสามารถช่วยทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ต้องยอมรับถึงอันตรายต่อสุขภาพที่จะตามมาด้วย
เพราะน้ำยาทำความสะอาดที่ล้วนแต่ประกอบไปด้วยสารเคมีอันตรายทั้งนั้น สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกายเหล่านี้อาจเป็นสารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ง่ายๆ ดังนั้นถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงเถอะค่ะ
ถ้าไม่อยากเป็นอันตราย มาทำความสะอาดห้องน้ำของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้ส่วนผสมที่หาได้ง่าย และช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายกันดีกว่า สิ่งที่คุณต้องเตรียมมีดังต่อไปนี้
ส่วนผสม
1. โซเดียมไบคาร์บอเนต (เบคกิ้งโซดา) 160 กรัม
2. ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (3%) 1 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำส้มสายชู 1/2 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่คุณชอบ 15 - 20 หยด
5. น้ำมะนาว 60 มิลลิลิตร
วิธีทำ
1. ใส่เบคกิ้งโซดาลงในชาม และเติมน้ำมะนาวลงไป ผสมให้ส่วนผสมเข้ากัน
2. ใส่น้ำส้มสายชูและไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ลงในชามอีกใบ ผสมให้ส่วนผสมเข้ากันเช่นกัน
3. เทส่วนผสมของน้ำส้มสายชูและไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่ผสมจนเข้ากันจากข้อ 2 ลงในชามผสมเบคกิ้งโซดาและน้ำมะนาวในข้อ 1
4. ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นเติมน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชอบลงไป
5. ใช้ช้อนตักส่วนผสมเป็นก้อนกลมๆ ใส่เข้าไปในถาดอบ และนำเข้าเตาอบเพื่ออบให้แห้ง
6. เมื่อแห้งดีแล้ว คุณก็สามารถใช้มันเป็นอุปกรณ์ในการทำความสะอาดห้องน้ำได้เลย
จากนั้นก็นำอุปกรณ์ที่ทำเสร็จแล้วมาใช้ในการทำความสะอาดได้เลย รับรองว่าห้องน้ำสะอาดมากกว่าเดิมแน่นอน ลองเอาไปทำดูนะคะ
เคล็ดลับที่ว่านี้จะช่วยให้คุณสบายใจขึ้นอีกเยอะ โดยคุณสามารถลองทำได้เลยตั้งแต่วันนี้ เหมาะสำหรับทำความสะอาดห้องน้ำของคุณมากๆ เพราะปลอดภัยและใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติที่ปลอดภัยล้วนๆ ไม่ได้แค่ช่วยให้ประหยัดเงินในกระเป๋าของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง อายุยืนยาวอีกด้วย ลองเอาไปทำกันดูนะคะ
อ้างอิง : healthyfoodstar.com
แปลข้อมูลโดย : http://www.rak-sukapap.com/
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น