สุดยอด 6 สมุนไพร สยบเบาหวาน เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลสุขภาพของคุณ
เพราะโลกกว้าง และมีข้อมูลมากมาย เราจึงต้องตามให้ทัน ยิ่งเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บด้วยแล้ว แต่ละเมือง แต่ละประเทศต่างก็มีวิธีในการสยบที่ไม่เหมือนกัน เบาหวานเป็นอีกหนึ่งโรคที่มีสถิติผู้ป่วยทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นทุกปี ซึ่งแน่นอนว่ามนุษย์จากทั่วทุกมุมโลก ไม่ยอมยกธงขาวให้ความเจ็บป่วยนี้เช่นกัน
เรื่องพิเศษปักษ์นี้ จึงขอเป็นตัวช่วยสำหรับใครที่กำลังเผชิญกับโรคเบาหวาน ด้วยการนำเสนอ 6 ชาติ 6 ศาสตร์ สยบเบาหวาน เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลสุขภาพของคุณค่ะ
1. ประเทศสหรัฐอเมริกา เดินหลังมื้อข้าว ลดเสี่ยงเบาหวานชนิด 2
ในปัจจุบัน ชาวอเมริกันเกือบ 26 ล้านคน ป่วยเป็นโรคเบาหวาน และอีกราว 79 ล้านคน กำลังตกอยู่ในภาวะเสี่ยง ซึ่งล่าสุดรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เริ่มแผนผลักดันให้มีการเดินหลังกินอาหาร เพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติลอเรตตา ดิเปียโทร (Loretta Dipietro) หัวหน้างานวิจัยโรคเบาหวาน และศาสตราจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา แห่งมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน กล่าวถึงการค้นพบที่จะช่วยชาวมะกันในครั้งนี้ว่า
“การเดินย่อยหลังกินข้าวเป็นเวลา 15 นาที มีส่วนช่วยยับยั้งอัตราการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือด”
ทั้งนี้ ทีมงานของศาสตราจารย์ดิเปียโทร ทำการวิจัยจากอาสาสมัครที่เป็นโรคอ้วน อายุเฉลี่ย 71 ปี จำนวน 10 คน ทุกคนมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าบุคคลทั่วไป ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนกลุ่มนี้เสี่ยงต่อโรคเบาหวานชนิด 2 หรือชนิดที่ไม่ต้องพึ่งอินซูลิน ที่สามารถพบเห็นได้มากสุด
อาสาสมัครแต่ละคนต้องอยู่ในห้องเมทาบอลิซึม ซึ่งเป็นห้องพิเศษที่สร้างขึ้นเพื่อให้ทีมวิจัยได้ติดตามระดับแคลอรีที่ถูกเผาผลาญไป เป็นระยะเวลา 3 วัน
วันแรกของการวิจัย เรียกว่า วันควบคุม อาสาสมัครไม่ต้องทำกิจกรรมใดๆ ที่ต้องใช้ร่างกาย แต่วันที่ 2 พวกเขาต้องเดินบนลู่วิ่ง ด้วยระดับความเร็วปกติ 15-30 นาที หลังกินอาหารในแต่ละมื้อ
วันที่ 3 อาสาสมัครต้องเดินเป็นเวลา 45 นาที ช่วง 10.30 น. หรือ 16.30 น. โดยที่อาสาสมัครทุกคนจะได้รับการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ตลอดช่วงทำกิจกรรมทั้ง 3 วันอย่างต่อเนื่อง
ศาสตราจารย์ดิเปียโทร เผยว่า งานวิจัยที่เธอและทีมงานได้ทำนี้ แสดงให้เห็นว่า การกำหนดเวลาสำหรับการเดินออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้สุขภาพของเราดีขึ้น เพราะการเดินเกี่ยวข้องกับการขยับของกล้ามเนื้อ ซึ่งช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง
2. ประเทศมาเลเซีย 5 สมุนไพรรักษาเบาหวาน
งานวิจัยจาก คณะเภสัชและวิทยาศาสตร์สุขภาพ ราชวิทยาลัยแพทย์เปรัค มหาวิทยาลัยกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย สำรวจพบสมุนไพรที่หมอพื้นบ้านนิยมใช้เพื่อรักษาเบาหวาน ซึ่งมีประสิทธิภาพแถมยังราคาถูก ขณะเดียวกัน ผลข้างเคียงก็น้อยกว่าการใช้ยาแผนปัจจุบัน ดังนี้ฟ้าทะลายโจร (Andrographispaniculata) หรือที่ชาวมาเลเรียกว่า เฮมเปดุ บูมิ (HempeduBumi)เป็นไม้ล้มลุกที่มีสรรพคุณคือ แก้อาการติดเชื้อ รากและใบ เมื่อนำมาศึกษาพบว่า สารสกัดฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ช่วยเพิ่มการเผาผลาญกลูโคส จึงมีผลดีต่อผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
สำหรับวิธีใช้ก็ไม่ยาก เพียงนำใบฟ้าทะลายโจร 4-5 ใบ ไปตากให้แห้ง จากนั้น นำมาใส่น้ำร้อน ทำเป็นชา ดื่มได้ตลอดทั้งวัน
แป๊ะตำปึง (Gynuraprocumbens) หรือแซมบัง นยาวา (SambungNyawa) เป็นพืชล้มลุกที่พบได้ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผลการศึกษาพบว่า สารสกัดแป๊ะตำปึงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้เนื่องจากช่วยกระตุ้นให้กล้ามเนื้อดูดซึมน้ำตาลได้อย่างรวดเร็วภายใน 14 วัน นอกจากนี้ยังช่วยลดความดันโลหิต แต่ยังไม่สามารถลดระดับอินซูลิน
ในประเทศไทย ชาวเหนือนิยมนำใบสดมากินกับลาบ เรียก ว่านกอบ หรือ ใบเบก
ไทรไข่มุก (Ficusdeltoidea) หรือ มะจอเต๊ะ (Mas Cotek) หมอพื้นบ้านมาเลเซียดั้งเดิมใช้รักษาอาการสตรีตกเลือดหลังคลอด ช่วยให้ระบบเลือดและหัวใจทำงานได้ดีขึ้น ต่อมามีการศึกษาพบว่า สารสกัดจากใบช่วยลดทั้งระดับน้ำตาลในเลือด คอเลสเตอรอลและความดันโลหิตได้ จึงมีผลดีต่อผู้ป่วยเบาหวานขณะที่ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่า ยังมีสารแอนติออกซิแดนท์สูงอีกด้วย
ปัจจุบัน สมุนไพรชนิดนี้จึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย มีการผลิตเป็นชาชงสมุนไพรพบเห็นได้ทั่วไปในมาเลเซีย
ดาวกระจาย (Cosmos caudatus) หรือ อุลาม รายา (Ulam raja) ชื่อในภาษามาเลเซียนั้นแปลว่า ราชาแห่งสลัด แม้ดาวกระจายเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปละตินอเมริกา แต่ชาวมาเลเซียนิยมใช้ใบสดมาปรุงเป็นสลัด ส่วนในตำรับยาพื้นบ้านมาเลเซียระบุว่า ดาวกระจายมีสรรพคุณในการต้านมะเร็งรักษาเบาหวาน นิ่ว และมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ จากการศึกษาในปัจจุบันพบว่า สารสกัดจากใบช่วยลดการดูดซึมกลูโคสในลำไส้เล็กได้ จึงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ยังมีผลช่วยลดความดันโลหิตได้ด้วย
ลูกใต้ใบ (Phyllanthusniruri) หรือ ดุกัง อานัก (DukungAnak) พืชล้มลุกขนาดเล็กชนิดนี้พบได้ทั่วไป ข้อมูลในรายงานระบุว่า เพียงออกเดินสำรวจรอบๆ บ้านก็จะพบต้นลูกใต้ใบขึ้นอยู่ มีสรรพคุณช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ที่เป็นโรคเบาหวานได้ เพราะสารสกัดของลูกใต้ใบมีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ยังช่วยขับปัสสาวะ ลดอาการบวม แก้ร้อนใน ขับเหงื่อ ขับปัสสาวะได้อย่างดี
คนดั้งเดิมมักใช้ต้นลูกใต้ใบตากแห้งมาชงเป็นชาดื่ม แต่ด้วยเหตุที่มีรสขม จึงนิยมนำมาทำเป็นแคปซูลเพื่อให้กินได้สะดวกขึ้น
ประเดิมที่สองประเทศแรกที่เราคุ้นเคย ยังเหลืออีกสี่ประเทศ รวมทั้งประเทศไทยของเราด้วย ตัวช่วยสยบเบาหวานจะเป็นอย่างไร ติดตามอ่านกันได้ที่ นิตยสารชีวจิต ฉบับ 395 (16 มีนาคม 2558)
ข้อมูลดีๆจาก cheewajit เรื่องโดย: พรรณิภา จำปาดง , ธัญชนิต คงสมพงษ์
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น