WHAT'S NEW?
Loading...

สูตรลดน้ำหนักวิธีที่คนไทยไม่ค่อยรู้จัก High Carb Low Fat Diet แต่ได้ผล

Advertisements

Advertisements

สูตรลดน้ำหนักวิธีที่คนไทยไม่ค่อยรู้จัก High Carb Low Fat Diet แต่ได้ผล

วันนี้จะมาแนะนำวิธีการลดน้ำหนักแบบที่คนไทยไม่รู้จัก โดยสูตรนี้คุณ Aim สมาชิกพันทิปได้มารีวิวไว้ที่กระทู้ http://pantip.com/topic/34309172 เห็นว่าเป็นประโยชน์เลยนำมาฝากสาวๆกันคะ



สวัสดีค่ะก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวก่อนเลยว่าที่จริงไม่ใช่คนที่น้ำหนักเยอะ หรือเกินเกณฑ์ทั่วไปอะไรมากมาย แต่ก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่หุ่นดีจนเป็นที่พึงพอใจของตัวเองเช่นกัน

เราสูง 160 กว่าๆ น้ำหนักก่อนที่จะลดด้วยวิธีนี้ก็วิ่งไปมาตลอดอยู่ที่ 51-53
เชื่อเลยว่าหลายคนที่อ่านถึงตรงนี้ก็คงคิดแย้งขึ้นมาแล้วว่า "เห้ย! ก็ไม่ได้อ้วนนี่หว่า"
เอ๊า...ก็บอกไปตั้งแต่เกริ่นแล้วไงจ๊ะ 55555 แต่เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งกดปิดแท็ปหนีหน้ากันไปน้า
เราเชื่อว่าสาวๆ (และหนุ่มๆ หลายคน) ถ้าได้กดปิดไปจะถือว่าพลาดเลยทีเดียว
เพราะวิธีการลดน้ำหนักแบบนี้มันทำให้เรามีความสุขขึ้น ผ่อนคลายขึ้น และแน่นอนว่าได้ผลจริง (กับเราและหลายๆ คน )

เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลามาก เราขอเล่าเกี่ยวกับวิธีการไดเอทก่อนที่จะเจอวิธีนี้ให้ฟังก่อนนะ
ซึ่งนี่ก็เป็นที่มาของน้ำหนัก 51-53 ของเรานั่นแหละ เพราะเมื่อตอนช่วงก่อนจะแตกเนื้อสาวกรุบกริบ
เราก็เคยน้ำหนักเลยเถิด อ้วนหน้าบาน (ตอนนี้ก็บาน ) มาก่อนเหมือนกัน
เพราะงั้นพอเริ่มจะแรด! เอ่อ...เปลี่ยนเป็นรักสวยรักงามดีกว่า >_<

เราก็เลยลดน้ำหนักด้วยการกินน้อยๆ นับแคลอรี่ของทุกอย่างในแต่ละวันแทนการกินแบบยัดหมด
จะกินแต่ละอย่างก็คิดแล้วคิดอีกว่าแคลเท่าไหร่ จะเอาแป้งเข้าปากทีนี่ก็คำนวณในใจตลอดว่าได้ไหม
ยิ่งพวกไขมันนี่ไม่ต้องเอ่ยถึงเลยนะ เจอกันน้อยมากๆ จ้ะในแต่ละวัน
เน้นกินพวกโปรตีน อกไก่กับปลานี่เพื่อนสนิทชิดเชื้อกันเลยขอบอก ซึ่งมันก็ดีนะ ไม่ได้จะดิสเครดิตวิธีนี้เลยเพราะยังไงนั่นก็คือวิธีที่ทำให้เรามีหุ่นที่พอจะไปวัดแล้วหมาไม่หอนไล่กับเขาได้บ้าง ฮี่ๆ


แต่มันก็กดดันชีวิตเราอยู่ไม่น้อย เพราะชีวิตมันก็หมดความอดทนกันได้เป็นของธรรมดา
วันไหนศีลขาดนี่หนักหนาสาหัสยิ่งนัก เจอของทอดจับยัด เจอขนมหวานจัดเรียบ!! แล้วก็ค่อยมาสำนึกทีหลังวันต่อไปก็ต้องลดปริมาณการกินลงให้แคลมันสมดุล เพราะเป็นคนที่น้ำหนักเด้งง่ายมากๆ
ปกติจะกินไม่เกิน 1500 แคล (อันนี้มาจากการคำนวณค่า TDEE) แต่ทำไมไม่รู้อะ
ถ้าวันไหนกินเกิน 1200 นะ พรุ่งนี้แต่เช้าตรู่ท้องว่างๆ ลองไปชั่งน้ำหนักสิ!! มีเพิ่มแน่!!!
เพราะงั้นก็เลยต้องพยายามจำกัดตัวเองอยู่ตลอด So Sad มากๆ

แต่ High Carb Low Fat Diet นี่มันฉีกกฎทุกอย่าง!!!
กิน...เมื่อหิว เท่าที่อยาก อิ่ม...ค่อยหยุดกิน ตามสัจธรรมมนุษย์ แต่!!!!! น้ำหนักเราดันลดซะอย่างงั้น
The Impossible!!
แต่เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งได้ใจมากไป แน่นอนว่ามันไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น... (แต่ก็ไม่ยากมากนะ!!)

Hclf Diet มันจะคล้ายๆ กับ Plant-Based Diet คือการกินอาหารที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์
ส่วนมากก็เป็นพวกผัก ผลไม้ และธัญพืช
เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆ สิ อย่าเพิ่งเบ้หน้าใส่ อย่าลืมสิ ว่าเราจั่วหัวไว้แล้วนะว่าเรามีความสุขขึ้น

พื้นฐานหลักๆ ของการกินแบบนี้นะก็คือ


- ไม่กินเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ (แต่เราก็แอบกินบ้างนะ เล็กน้อยขนมกรุบ 5555 ไม่มีผลเสียอะไร)
- เน้นกินพวกผักผลไม้ที่ไม่ปรุงแต่งมากนัก
- รับโปรตีนจากพืชตระกูลถั่ว
จบแล้ว หลักการของเรา เท่านี้จะกินอะไรที่เหลือก็จับเข้าใส่ปากโลด!! (คือเราชอบกินแป้งมากๆ อยู่แล้วอ่า ก็เลยไม่ค่อยมีปัญหากับการอดเนื้อ แต่เดี๋ยวตอนท้ายมีเคล็ดลับมาบอกด้วย ฮ่าๆๆ)

เอาล่ะ มาลองดูในหนึ่งวันของเราดีกว่าเนอะ ว่าเรากินอะไรไปบ้าง (ใส่แคลอรี่ไว้ให้ใน spoil แล้วกันเนอะ)

เดี๋ยวจะยกตัวอย่างซัก 3 วันน้า


Day1 : เช้า (Overnight Oatmeal) กินเล่นช่วงสายๆ (ส้มสดๆ สองลูกกับน้ำส้มปั่นอีก 2 ลูก) เที่ยง (มันเทศเผาว๊านหวาน 3 ลูกกับเม็ดมะม่วงดิบ 100 g) เย็น (ขนมปังเผือกปาดนูเทลล่าโฮมเมด) กินเล่นตอนเย็น (Homemade Oat Bar)


Day2 : เช้า (แตงโมสดครึ่งลูก ปั่นอีกครึ่งลูก) กินเล่น (เม็ดมะม่วง 100 g) เที่ยง (มันฝรั่งแท่งอบแทนทอด) เย็น (ผลไม้รวม + เม็ดมะม่วง)



Day3 : เช้า (กล้วย 8-10 ลูก) กินเล่น (มันฝรั่งอบ) เที่ยง (มะม่วง 2 ลูก) เย็น (พาสต้าผักจานใหญ่ อร่อยมาก!)

พอเท่านี้ก่อนเนอะ ยังไงก็ตามแต่ ปกติไม่ได้นับแคลอรี่เลยว่ากินไปเท่าไหร่ เอาเท่าที่อิ่ม หิวก็กิน อิ่มก็พอ ดี๊ดี

คราวนี้มารู้ผลดีที่เราได้จากการกินแบบนี้กันดีกว่าเนอะ


1. เราไม่รู้สึกว่าอดอยากเลยในแต่ละวัน (ก็แน่นอนอะ จัดซะเยอะขนาดนั้น 5555)
2. ไม่ค่อยอยากกินของหวานเท่าไหร่ แต่ถ้าอยากเมื่อไหร่ก็จะเป็นพวกโอ๊ตบาร์ ขนมปังทำเองทั้งหลายแหล่ ที่แน่นอนว่าหอมกรุ่นอร่อย ฮี่ๆ
3. น้ำหนักลดและทรงตัว (ก็ไม่ได้อยากให้มันลดไปกว่านี้อีกแล้ว กำลังดีๆ) ทั้งที่กินเยอะมากๆ เอ้อ! ลืมบอก ตอนนี้ 49-50 แล้วนะจ๊ะ
4. ระบบขับถ่ายดีขั้นเทพ!
5. ถือซะว่าได้ทำบุญแทบจะตลอดเวลา เพราะ HCLF Diet เป็น Vegan Diet คือมังสวิรัตินั่นเอง
6. สุขภาพจิตดีเลิศ เพราะหิวเมื่อไหร่ก็กินได้ตลอด ไม่ต้องพะวงอะไร
7. High Energy คงเป็นเพราะพวกผักผลไม้มันมีน้ำตาลที่ร่างกายใช้ได้เลยล่ะมั้ง มันก็เลยรู้สึกคึกๆ 5555

และแน่นอนว่ามีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย


1. ห้ามกินเนื้อสัตว์ สำหรับสาวกเนื้อคงแทบอยากจะบ้าตายเลยแน่ๆ แต่เรามีเคล็ดลับ!!
คือการทำตัวเองให้เป็น Flexitarian = Flexible + Vegetarian คือนานๆ ทีสามารถกินเนื้อได้ แต่ไม่ได้กินเยอะนะ แค่พอหายอยาก
สำหรับเราเองก็ซักสองอาทิตย์ครั้ง แต่พวก Flex ที่ยืดหยุ่นมากๆ จะเป็นมังแค่อาทิตย์ละ 4-5 วันก็มี อันนี้ก็แล้วแต่คนเลยเนอะ
เพราะอย่าลืมว่าเราก็ยังต้องมีสังคมกันอยู่ดี เลือกวิธีการไดเอทที่มันเหมาะกับตัวเองแล้วทำไปได้นานๆ ดีกว่านะ
2. กินโปรตีนน้อย สำหรับคนเล่นกล้ามก็อาจจะเครียดเลย แต่พอดีเราไม่ได้เล่นอะ เลยรู้สึกว่าไม่ได้ขาดอะไรเลย

เท่านี้ดีกว่าเนอะ หวังว่านี่จะมีประโยชน์กับใครหลายๆ คนนะ


ปล. เหมือนจะเคยเห็นคนไทยรีวิว hclf อยู่เหมือนกันน้า ชื่อคุณแจ๋ม เราแค่อยากมาเล่าในส่วนของเราบ้าง ทุกคนจะได้มั่นใจว่าเราไม่ได้มโนไปเองแต่อย่างใด (ส่วนคนต่างประเทศนี่เยอะมากๆ ที่ลดด้วยวิธีนี้ ลองพิมพ์ใน youtube ว่า What I eat in a day น้า)
ปล.2 พูดคุยกันต่อได้นะ ที่ ig : aim_ph1021 แต่เราเพิ่งกลับมาลงรูปเมื่อไม่นานนะ ฮ่าๆๆๆ
ปล.3 นี่โพสแรกของเราสำหรับการเป็นสมาชิกพันทิปเลยน้า เพราะงั้นช่วยแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์กันนะคะ

ข้อมูลและภาพประกอบจาก http://pantip.com/topic/34309172
สามารถติดตาม IG ของเธอได้ที่ https://instagram.com/aim_ph1021

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น